top of page

การออกแบบพื้นที่ร้านเสริมสวยให้คุ้มค่าทุกตารางเมตร

รูปภาพนักเขียน: Decco developDecco develop

ออกแบบร้านเสริมวสวยให้คุ้มค่า

การออกแบบพื้นที่ร้านเสริมสวยให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าต้องคำนึงถึง ฟังก์ชัน, ความสะดวกสบาย และบรรยากาศที่ดึงดูดลูกค้า ไม่ว่าร้านจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ หากวางแผนดี ก็สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ


1.วางแผนพื้นที่ใช้งานให้ลงตัว

ก่อนเริ่มตกแต่ง ต้องรู้ว่าพื้นที่แต่ละส่วนจะใช้ทำอะไร แล้วจัดสรรพื้นที่อย่างเหมาะสม


การจัดสรรพื้นที่ร้านเสริมสวย

โซนสำคัญในร้านเสริมสวย

  • โซนต้อนรับ (Reception Area) – จุดแรกที่ลูกค้าพบ ควรดูเป็นมืออาชีพและอบอุ่น 

  • โซนตัดผม / ออกแบบทรงผม – จัดเก้าอี้ให้มีระยะห่างที่เหมาะสม ไม่แน่นเกินไป โซนสระผม – ควรแยกจากโซนตัดผมเพื่อความเป็นส่วนตัว และไม่ให้เสียงรบกวน 

  • โซนทำสี / ทรีตเมนต์ – ควรมีพื้นที่พอสำหรับลูกค้านั่งสบาย

  • โซนรอคิว – มีเก้าอี้หรือโซฟาที่นั่งสบาย พร้อมนิตยสารหรือ Wi-Fi 

  • โซนเก็บอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ – ควรมีพื้นที่เก็บของที่เป็นระเบียบ ไม่รก

  • โซนแต่งหน้า / บริการเสริม – หากมีบริการเสริมเช่น แต่งหน้า ทำเล็บ ควรจัดแยกเพื่อไม่ให้รบกวนการทำผม


 เคล็ดลับ:

  • ใช้ เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชัน เช่น ตู้เก็บของใต้เคาน์เตอร์ หรือชั้นวางติดผนัง

  • จัดโซนให้ลูกค้ารู้สึกสะดวก ไม่ต้องเดินสวนกันบ่อยๆ

  • เน้นความโปร่งโล่ง โดยใช้กระจกและโทนสีอ่อนให้ร้านดูกว้างขึ้น


2. ออกแบบพื้นที่ร้านเสริมสวย : โซนต้อนรับให้ลูกค้าประทับใจ

 โซนนี้เป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นและสัมผัส ควรออกแบบให้ดึงดูดและเป็นมืออาชีพ


 องค์ประกอบสำคัญของโซนต้อนรับ

เคาน์เตอร์ต้อนรับ – วางในตำแหน่งที่ลูกค้าเห็นง่าย ทักทายสะดวก

บอร์ดโปรโมชั่น – แจ้งแพ็กเกจลดราคา หรือโปรโมชันพิเศษ 

ที่นั่งรอ – จัดโซฟาหรือเก้าอี้ให้นั่งสบาย มีพื้นที่พอไม่อึดอัด

ชั้นโชว์สินค้า – หากขายแชมพู ทรีตเมนต์ ควรวางให้ง่ายต่อการหยิบ


 Tip:

ใช้โทนสีอบอุ่น เช่น ชมพูพาสเทล ขาว เทาอ่อน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

เพิ่ม กระจกบานใหญ่ ให้ร้านดูกว้างขึ้น

 

3. การจัดเก้าอี้ทำผมให้ใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด

เก้าอี้ทำผมเป็นอุปกรณ์หลักของร้าน ต้องจัดให้ลูกค้าสบาย แต่ไม่เปลืองพื้นที่

 ระยะห่างที่เหมาะสม

  • ระหว่างเก้าอี้ทำผม: ควรมี ระยะห่าง 1.2 - 1.5 เมตร เพื่อให้ช่างเดินได้สะดวก

  • ระหว่างเก้าอี้กับกระจก: ควรมี ระยะ 80 ซม. - 1 เมตร เพื่อให้วางอุปกรณ์ได้

  • โซนสระผม: ควรมีพื้นที่พอให้ลูกค้านั่งเอนตัวสบาย (อย่างน้อย 1.5 เมตรต่อจุด)


 เคล็ดลับ:

หากพื้นที่เล็ก ควรใช้ กระจกขนาดใหญ่ติดผนัง ให้ร้านดูกว้าง

ใช้ ชั้นวางติดผนังแทนโต๊ะ ประหยัดพื้นที่ได้มาก

 

4. การออกแบบพื้นที่สระผมให้สะดวกและดูแพง

 โซนสระผมเป็นจุดที่ลูกค้าผ่อนคลาย ควรออกแบบให้ดูหรูหรา และเป็นส่วนตัว

 เทคนิคออกแบบโซนสระผม

ใช้แสงไฟสลัว ๆ – ให้ความรู้สึกเหมือนสปา ลดแสงจ้าเกินไป แยกจากโซนทำผม – ป้องกันเสียงรบกวน ลูกค้าจะรู้สึกสบายขึ้น ใช้ผ้าม่านหรือพาร์ทิชันกั้นเบาๆ – เพื่อความเป็นส่วนตัว เลือกเก้าอี้ที่นอนสบาย – ถ้าลูกค้าผ่อนคลาย ก็จะกลับมาใช้บริการอีก

 Tip:

โทนสีที่เหมาะสม: น้ำตาล เทา ครีม ให้ความรู้สึกอบอุ่น

ตกแต่งด้วยต้นไม้เล็ก ๆ หรือเทียนหอม เพิ่มบรรยากาศแบบสปา


5. โซนเก็บของให้เป็นระเบียบ ไม่รกสายตา

  •  พื้นที่เก็บของที่ดีช่วยให้ร้านดูสะอาดและมีระเบียบ

  • ตู้เก็บของติดผนัง หรือ ชั้นลอย ติด ชั้นวางแนวตั้ง สำหรับใส่ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ ใช้ กล่องใส่ของแบบมีล้อ เก็บใต้โต๊ะ หรือใต้เคาน์เตอร์


 เคล็ดลับ

วางของที่ใช้บ่อยให้หยิบง่าย เช่น กรรไกร หวี ไดร์เป่าผม

แยก อุปกรณ์ใช้แล้ว - อุปกรณ์สะอาด ป้องกันความสกปรก


6. ใช้โทนสีและแสงไฟให้ร้านดูกว้างขึ้น

 โทนสีและแสงไฟมีผลต่อบรรยากาศของร้านมาก

การใช้โทนสีและแสงไฟในร้านเสริมสวยมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากสามารถส่งผลต่อความรู้สึกของลูกค้า ประสบการณ์การใช้บริการ และสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านได้อย่างชัดเจน ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ได้แก่


โทนสีและไฟตกแต่งร้านเสริมสวย

ความสำคัญของโทนสี (Color Tone)

สร้างบรรยากาศที่เหมาะสม:

  • สีโทนอ่อน เช่น สีขาว ครีม หรือพาสเทล จะช่วยให้ร้านดูกว้าง สะอาด และสงบ เหมาะกับร้านที่ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย

  • สีโทนเข้ม เช่น สีดำ เทา หรือทอง ให้ความรู้สึกหรูหรา ทันสมัย เหมาะกับร้านที่เน้นความพรีเมียม


สื่อถึงภาพลักษณ์และแบรนด์

โทนสีสามารถบ่งบอกถึงสไตล์ของร้าน เช่น สีชมพูหวาน ๆ สำหรับร้านที่มีคอนเซ็ปต์น่ารัก หรือสีฟ้าและเทาสำหรับร้านที่เน้นความโมเดิร์น

กระตุ้นอารมณ์และความรู้สึก

  • สีสันที่สดใสช่วยเพิ่มพลังและความสนุกสนาน

  • สีโทนอุ่นช่วยให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง


ความสำคัญของแสงไฟ (Lighting)

  • เสริมความงามของลูกค้า

    • แสงไฟที่ดีจะช่วยขับผิวหน้าให้ดูสวยงามและช่วยให้การแต่งหน้า ทำผม หรือทำเล็บดูโดดเด่น

    • แสงไฟสีขาวนวล (Warm White) นิยมใช้เพราะให้ความเป็นธรรมชาติและไม่บิดเบือนสีของผลิตภัณฑ์หรือเมคอัพ


เพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ

  • แสงไฟที่ส่องสว่างเพียงพอช่วยให้ช่างเสริมสวยสามารถทำงานได้อย่างละเอียดและแม่นยำ

การจัดไฟส่องเฉพาะจุด (Spotlight) สำหรับโต๊ะทำผมหรือโต๊ะแต่งหน้า จะช่วยให้บริการดูมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

  • สร้างจุดเด่นให้กับพื้นที่:

ใช้ไฟเน้นจุดสำคัญ เช่น โซนต้อนรับ มุมถ่ายรูป หรือชั้นวางสินค้า เพื่อดึงดูดสายตาและเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่นั้น ๆ


เคล็ดลับในการใช้โทนสีและแสงไฟร่วมกัน

  • เลือกโทนสีผนังและเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับแสงไฟ เช่น ถ้าร้านใช้ไฟสีเหลืองนวล สีผนังโทนอุ่นจะช่วยเสริมความรู้สึกอบอุ่นได้ดียิ่งขึ้น

  • ติดตั้งกระจกบานใหญ่เพื่อช่วยสะท้อนแสง เพิ่มความสว่างและทำให้ร้านดูกว้างขวาง

  • ปรับความสว่างของไฟให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น ไฟสว่างในช่วงกลางวัน และปรับเป็นไฟโทนอุ่นในช่วงเย็นเพื่อเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย


โทนสีและแสงไฟไม่เพียงแค่ทำให้ร้านเสริมสวยดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของลูกค้า สามารถสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์และเพิ่มความน่าเชื่อถือในบริการได้อย่างชัดเจน การออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีและอยากกลับมาใช้บริการซ้ำอีก

 

 โทนสีที่ทำให้ร้านดูกว้างและสบายตาในการออกแบบพื้นที่ร้านเสริมสวย

  • สีอ่อนและพาสเทล – เช่น ขาว ครีม เทาอ่อน ทำให้ร้านดูโปร่ง

  •  สีพีช ชมพูอ่อน หรือทองอ่อน – ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา

  •  กระจกขนาดใหญ่ – ทำให้ร้านดูกว้างขึ้น และสะท้อนแสงธรรมชาติ


 แสงไฟที่เหมาะกับร้านเสริมสวย

ใช้ ไฟ LED แสงขาวนวล (Warm White) ดูเป็นธรรมชาติ

เพิ่ม ไฟเฉพาะจุดที่กระจก เพื่อให้ช่างทำงานง่ายขึ้น


 สรุปวิธีออกแบบร้านให้คุ้มค่าทุกตารางเมตร

  • จัดโซนให้ชัดเจน – ตัดผม สระผม ทำสี แยกออกจากกัน 

  • ใช้เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน – เก็บของง่าย ประหยัดพื้นที่ 

  • ใช้กระจกและโทนสีอ่อน – ทำให้ร้านดูกว้างขึ้น 

  • สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย – แสงไฟสบายตา มีพื้นที่นั่งรอที่ดี

Comments


bottom of page